ฮัลโหลลลล~~~ เพื่อนๆ
มาพบกันหลังเทศกาลปีใหม่แบบนี้ ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมามุกออกแดดบ่อยมากเลยทุกคน เลยต้องหากันแดดเตรียมไว้สักหน่อย…
ถ้าเพื่อนๆ ยังจำได้ มุกเคยอวดเซรั่มกับแฮนด์ครีมจากแบรนด์ Bihada ของ Dr. Wassana ไป ขออนุญาติอัพเดตความรู้สึกหลังใช้นิดนึง คือตอนนี้แฮนด์ครีมได้หมดไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ใช้ดีมาก มือนุ่มสุดๆ ส่วนเซรั่ม ยังคงใช้ต่อเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง มุกรู้สึกได้ว่าผิวค่อนข้างดีขึ้นมาก มีความสดชื่น ไม่แห้งขาดน้ำ อิ่มน้ำมากๆ แม้จะเป็นช่วงอากาศเย็นแห้งๆ แบบนี้
กันแดดตัวนี้มีส่วนผสมจากน้ำแร่ธรรมชาติ (Aqua) ที่จะคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ให้ผิวแลดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ อีกหนึ่งส่วนผสมที่สำคัญไม่แพ้กันคือ คอลลาเจน (Collagen) ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียน ลบเลือนริ้วรอย ชะลอวัยและจุดเด่นของแบรนด์นี้คือ เขาใส่สารสกัดวิชฮาเซล (Witch Hazel Extract) เป็น Anti-oxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ กระตุ้นการสร้าง Elastin และ Collagen ใต้ชั้นผิวหนังให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ขจัดไขมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ ทำงานร่วมกับวิตามิน บี 3 (Vitamin B3) ที่จะลดรอยแดงหรือดำ เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แล้วการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยเช่นกัน และวิตามินอี (Vitamin E) บรรเทารอยสิวและลดการเกิดสิวได้ นอกจากนั้นยังมีสารสกัดว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract) ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว บรรเทาอาการแสบร้อนหรือระคายเคืองจากการไหม้โดยแสงแดด และสารสกัดตัวสุดท้ายคืออัลลันโทอิน (Allantoin) ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
กันแดดบิฮาดะตัวนี้ปราศจากสารอันตรายที่ทำให้เกิดการแพ้และอาการระคายเคืองต่อผิวอย่างเช่น พาราเบน (Paraben) แอลกอฮอล์ (Alcohol) สีสังเคราะห์ (Synthetic Color) ซิลิโคน (Silicone) ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ปรอท (Mercury) และสเตียรอยด์ (Steriod) คนผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ไร้กังวลเลยค่ะ แต่มีใส่น้ำหอม (Fragrance) ด้วยนะคะ เป็นกลิ่นหอมละมุนบางเบา ไม่ฉุนค่ะ
กันแดดบิฮาดะตัวนี้ปราศจากสารอันตรายที่ทำให้เกิดการแพ้และอาการระคายเคืองต่อผิวอย่างพาราเบน (Paraben) แอลกอฮอล์ (Alcohol) สีสังเคราะห์ (Synthetic Color) ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ปรอท (Mercury) สเตียรอยด์ (Steriod) แต่ตัวนี้มีส่วนน้ำหอม (Fragrance) กลิ่นหอม Fruity เหมือนแอปเปิ้ล หอมอ่อนๆ ไม่ฉุนค่ะ
มุกทำภาพเปรียบเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์ของทั้งสองสูตรมาให้เพื่อนๆดูกันนะคะ ทั้งสองสูตรเป็นลักษณะกันแดดแบบผสม Chemical-Physical Sunscreen ซึ่งช่วยปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีเข้าไว้ในผิว สีกันแดดไม่ขาว ซึมเข้าสู่ผิว
โดยสูตรแรก (ด้านบน) จะเป็นสูตรน้ำแร่คอลลาเจน เนื้อครีมลักษณะเป็นครีมค่อนข้างเหลวนิดหน่อย ความรู้สึกหลังใช้สูตรนี้ครั้งแรกคือ ชอบมากๆ มุกตื่นเต้นมากตอนลงสู่ผิวแล้วเนื้อครีมเปลี่ยนเป็นน้ำ จากนั้นค่อยๆซึมลงสู่ผิวดีมาก เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายมาก ไม่รู้สึกหนักหน้า มีส่วนผสมรองพื้น ปรับสีผิวให้สว่างขึ้นเล็กน้อย ทาแล้วปกปิดบางเบา แต่มีความรู้สึกว่าเจ้าตัวนี้ให้งานผิวใสดีค่ะ พอครีมกันแดดซึมลงสู่ผิวหมด จะกลืนเข้ากับสีผิวเราเลย
อีกตัวเนื้อครีมกันแดดสูตรใยไหมผสมรองพื้นสีเบจ (ด้านล่าง) เนื้อใยไหมนุ่มลื่น เหมือนแป้ง ทาลงสู่ผิวเกลี่ยง่าย สีรองพื้นในกันแดดตัวนี้ค่อนข้างสว่าง ซึ่งเหมาะสำหรับสาวผิวขาวเหลืองจนถึงขาวอมชมพูค่ะ มีความปกปิดผิวบางเบาทาแล้วปรับสีผิวสว่างขึ้นหนึ่งเฉด แต่ข้อดีคือทำให้ผิวเนียนนวลดีค่ะ เบลอรูขุมขนเหมือนทาไพร์มเมอร์หรือทาแป้งทรานสลูเซ้นท์เลย
ต่อมามุกลองทาบนผิวหน้าให้เพื่อนๆดูกันชัดๆนะคะ จากภาพ Before มุกจะค่อนข้างเหมือนแขก เปลือกตาค่อนข้างคล้ำนะคะ) ซึ่งลักษณะผิวหลังทา เจ้ากันแดดใยไหม (ด้านล่าง) จะค่อนข้างออกสีชัดกว่าสูตรน้ำแร่คอลลาเจน แนะนำให้ทาจนถึงลำคอ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าสว่างกว่าตัวค่ะ มุกมีความรู้สึกว่ากันแดดใยไหมปกปิดบางเบาดีกว่าสูตรน้ำแร่เล็กน้อย อีกทั้งยังช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีกว่า ส่วนในเรื่องของงานผิวฉ่ำน้ำ มุกยกให้กันแดดสูตรน้ำแร่คอลลาเจน เพราะให้ฟินิชลุคที่เป็นผิวจริงๆ ผิวดูไม่แห้ง ดูฉ่ำน้ำดีค่ะ
ซึ่งสูตรใยไหมเหมาะสำหรับสาวผิวผสมไปถึงผิวมัน ส่วนสูตรน้ำแร่ธรรมชาติจะเหมาะสำหรับสาวผิวแห้งขาดน้ำนะคะ
การทดสอบความติดทน :
(มุกลองทากันแดดทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนทำการทดสอบนะคะ เพื่อให้กันแดดซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้วค่ะ)
ผลการทดสอบคือเจ้ากันแดดรองพื้นค่อนข้างกันน้ำ ไม่ไหลเยิ้ม ส่วนภาพสุดท้าย มุกลองทดสอบโดยการถูด้วยนิ้วและกระดาษทิชชู่แรงๆ จึงทำให้กันแดดหลุดออกจากผิวไปบ้าง โดยรวมคือกันแดดทั้งสองตัวค่อนข้างกันน้ำ ไม่หลุดลอก ระหว่างวันค่ะ
ข้อควรระวัง : หลังจากทากันแดด ไม่ควรโดนเหงื่อหรือน้ำทันที อาจจะให้กันแดดไหลเยิ้มได้ค่ะ เพราะกันแดดยังไม่ซึมลงสู่ผิวดี
ภาพนี้เปรียบเทียบก่อน-หลังใช้ โดนฝั่งซ้ายมือคือสูตร น้ำแร่คอลลาเจน และฝั่งขวามือคือสูตรใยไหม จากภาพจะเห็นได้ว่าทั้งสองสูตรปรับผิวมุกให้ความกระจ่างใสมากขึ้น แต่สูตรใยไหมจะค่อนข้างสว่างกว่าสูตรน้ำแร่ค่ะ สูตรน้ำแร่ให้ลุคงานผิวธรรมชาติมากกว่า
ส่วนตัวมุกชอบสูตรน้ำแร่นะคะ ตัวนี้ค่อนข้างให้ฟินิชลุคเป็นงานผิวจริง ไม่ทำให้ผิวหน้าสว่างเกินไป (ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผิวหน้ามุกสว่างกว่าลำตัวอยู่แล้ว เลยชอบสูตรที่เป็นงานผิวจริงมากกว่าค่ะ) อีกทั้งมุกค่อนข้างผิวแห้ง พอทาเจ้าสูตรน้ำแร่ธรรมชาติแล้ว ผิวดูฉ่ำน้ำดีมากค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ข้อมูลหรือคำแนะนำบางส่วนจากบล็อกนี้ไปเลือกใช้กันแดดได้นะคะ ส่วนเจ้าบิฮาดะ กันแดดทั้งสองสูตรนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของสาวๆได้นะคะ ใครชอบสูตรไหน ไปลองใช้กันดูได้นะคะ
วันนี้มุกต้องขอตัวไปก่อนนะคะ เจอกันใหม่บล็อกหน้านะค้า บ้ายยยยยบาย~~
แหล่งที่มา:https://www.jeban.com/topic/317333